เลือกอ่าน
ในยุคปัจจุบันนี้ สมาร์ทโฟนได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา และการดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานยาวนานก็เป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในปัญหาที่ผู้ใช้หลายคนพบเจอคือ การที่ ชาร์จแบตได้แค่ 80 แล้วตัด โดยเฉพาะกับ iPhone ซึ่งปัญหานี้เจอได้จากหลายๆสาเหตุ
สาเหตุอาการ ชาร์จแบตได้แค่ 80
1.คุณสมบัติการชาร์จแบบป้องกันแบตเตอรี่เสื่อม (Optimized Battery Charging)
ใน iOS 13 ขึ้นไป Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่” หรือ Optimized Battery Charging คือ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดการเสื่อมของแบตเตอรี่ โดยระบบจะเรียนรู้พฤติกรรมการชาร์จแบตเตอรี่ของผู้ใช้และหยุดชาร์จที่ 80% จนกว่าจะใกล้เวลาที่คาดว่าจะใช้เครื่อง ข้อดีคือจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่และยังลดความร้อนขณะชาร์จอีกด้วย แต่อาจจะทำให้ผู้ใช้บางคนไม่สะดวกเมื่อต้องการชาร์จให้เต็ม 100%
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Optimized Battery Charging
2.ความร้อนของอุปกรณ์
ในกรณีที่ตัวเครื่องมีความร้อนสูงเกินไป ตัวเครื่องจะหยุดการชาร์จเพื่อป้องกันแบตเตอรี่และอุปกรณ์อื่นๆเสียหาย ความร้อนจะเกิดได้หลายสาเหตุ เช่นมีการใช้ตัวเครื่องหนัก สภาพอากาศโดยรอบร้อน หรือมีการใช้งานขณะมีการชาร์จ ก็จะทำให้ตัวเครื่องมีความร้อนสะสมมากขึ้น
3.อแดปเตอร์ สายชาร์จ หรือช่องชาร์จมีปัญหา
หากอแดปเตอร์ สายชาร์จหรือช่องชาร์จเสียจะทำให้เกิดอาการชาร์จแล้วเข้าบ้างหลุดบ้างทำให้ตัวแบตเตอรี่ชาร์จได้ไม่เต็ม 100%
4.แบตเตอรี่เสีย
หลายคนอาจจะคิดว่าเวลาแบตเตอรี่เสียจะทำให้แบตเตอรี่หมดไวซึ่งนั้นก็จริง แต่อาการแบตเตอรี่เสียจะแสดงอาการอื่นๆตามมาอีกเช่น แบตไม่เก็บไฟถอดสายชาร์จแล้วดับ รวมไปถึงอาการที่แบตเตอรี่จะแสดงเป็น 80% หรือ 100% ค้างตลอดเวลาทำให้เราไม่ทราบเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ที่แท้จริงได้
วิธีแก้ปัญหา ชาร์จแบตได้แค่ 80
1.เข้าไปปิดฟังชั้น Optimized Battery Charging
ในการปิดฟังชั่นให้เราไปที่ “การตั้งค่า” > “แบตเตอรี่” > “สุขสภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ” > ปิด “การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่”
2.ช่วยระบายความร้อนตัวเครื่อง
ในการช่วยให้ตัวเครื่องเย็นเร็วขึ้นเราอาจจะใช้พัดลมช่วยเป่าตัวเครื่อง !ไม่แนะนำให้เอาตัวเครื่องเข้าแช่ตู้เย็นหรือนำน้ำมาลูบตัวเครื่อง เพราะอาจจะทำให้ตัวเครื่องเกิดความชื้นภายในตัวเครื่องได้ ปิดใช้งานฟังชั่นที่ไม่ได้ใช้ในตัวเครื่องเพื่อลดการทำงานตัวเครื่องและงดใช้มือถือขณะชาร์จแบตเตอรี่
3.เช็คช่องชาร์จและอุปกรณ์ชาร์จ
ตรวจเช็คอแดปเตอร์และสายชาร์จว่ามีการขาดหรือหักงอหรือเปล่าหากพบอาจจะลองนำอแดปเตอร์และสายชาร์จอื่นลองชาร์จดูหากลองเปลี่ยนแล้วยังพบอาการเดิมให้ลองตรวจเช็คช่องชาร์จหากมีคราบฝุ่นหรือคราบสกปรกรองใช้แปลงเล็กๆปัดทำความสะอาดดูก่อนหากยังไม่หายให้นำตัวเครื่องไปให้ช่างที่เชี่ยวชาญตรวจเช็คอีกที
4.เช็คแบตเตอรี่
เช็คแบตเตอรี่ว่ามีปัญหาหรือเปล่าโดยเช็ครอบตัวเครื่องระหว่างจอกับขอบเครื่องมีจุดไหนอ้าขึ้นมาหรือเปล่าหากมีการอ้าขึ้นมาอาจจะเกิดจากแบตเตอรี่เสียบวม หากแบตเตอรี่แบตบวมแนะนำเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยด่วนหากใช้ไปนานๆอาจจะเกิดปัญหาทำให้แบตเตอรี่เกิดไฟลุกขึ้นมาได้ เช็คราคาแบตเตอรี่กดเลย
หากเราทำทุกขั้นตอนแล้วยังคงพบปัญหาเดิมให้นำตัวเครื่องเข้าตรวจเช็คกับช่างที่ชำนาญเพื่อหาสาเหตุของอาการ ชาร์จแบตได้แค่ 80 ต่อไปหากเราแกะตัวเครื่องเช็คเองอาจจะทำให้อาการเสียลุกลามไปมากกว่าเดิม